เมื่อเหมียวเป็นแม่
ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าเหมียวของท่านกำลังตั้งท้อง ? สิ่งแรกที่น่าจะสังเกตได้ก็คือ เจ้าเหมียวของท่านจะกินจุมากขึ้นกว่าเดิม และจะมีน้ำหนักตัวมากขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อมาจนกระทั่งการตั้งท้องหลังวันที่ 35 ไปแล้ว (ปกติแมวจะตั้งท้อง 63 วัน) ท่านจะพบว่าบริเวณหน้าท้องและเต้านมขยายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในระยะนี้สมควรให้สัตวแพทย์ตรวจให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวของท่านตั้งท้องจริงหรือไม่ โดยสัตวแพทย์จะตรวจด้วยการคลำท้อง ถ้าหากตั้งท้องจริงจะพบว่า มดลูกจะขยายใหญ่ มีตัวอ่อนภายในเป็นก้อนๆ ห่างกันเป็นระยะ ซึ่งเมื่อพบว่าเจ้าเหมียวของท่านตั้งท้องแล้ว ท่านจะต้องคอยเตรียมการดูแลเจ้าเหมียวในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารหรือสุขภาพ
เมื่อราวๆวันที่ 50 ของการตั้งท้อง เจ้าเหมียวก็จะเริ่มมีการผลิตน้ำนมออกมา ซึ่งถ้าท่านลองบีบดูที่หัวนมก็จะพบว่ามีน้ำนมไหลออกมาจากหัวนมที่ขยายใหญ่และมีสีชมพูแดง ทั้งนี้จะมีอยู่ประมาณ 2 - 3 วันก่อนคลอด
ตลอดเวลาในการอุ้มท้องของแม่เหมียว เจ้าของควรหมั่นสังเกตความสมบูรณ์ของแม่เหมียวด้วย เช่น ดูว่าขนควรเป็นมันเงา ไม่ร่วงง่าย รูปร่างอวบอ้วนเปล่งปลั่ง ไม่ใช่อ้วนแต่ช่วงท้อง ทั้งนี้มีผลมาจากอาหาร ที่แม่เหมียวจะต้องได้รับอย่างถูกต้องตามโภชนาการ มีแร่ธาตุวิตามินครบถ้วน และมีปริมาณที่เพียงพอต่อลูกในท้องด้วย


 
 

แม้ว่าเจ้าเหมียวจะตั้งท้อง แต่ก็ไม่ควรจะประคบประหงมจนเกินไป ควรจะปล่อยให้มีการออกกำลังกายบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง คลอดง่าย และลดน้ำหนักส่วนเกินอีกด้วย ปกติแล้ว แม่แมวที่กำลังตั้งท้องนั้น จะรู้จักประเมินตนเอง ไม่ออกกำลังกายหักโหมเกินไปอยู่แล้ว ท่านจึงไม่ต้องวิตกเกินไปนัก แต่เมื่อระยะใกล้คลอด ท่านควรจะควบคุมให้แม่เหมียวได้มีการพักผ่อนมากๆ ควรจะออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินพอสมควร ยิ่งช่วง 3 วันก่อนคลอด ควรจะงดการออกกำลังที่รุนแรงเกินไป เพราะจะทำให้ส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้
เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การให้ยาสำหรับแมวที่ท้องว่า อะไรให้ได้หรือให้ไม่ได้ หรืออาจจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ ตัวอย่างยาที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับแมวท้องคือ แอสไพริน พาราเซตามอล ยาแก้แพ้ ยาปฏิชีวนะจำพวกเตตราซัยคลิน กานามัยซิน สเตรปโตมัยซิน ยากลุ่มซัลฟาทุกชนิด ฮอร์โมนและยากล่อมประสาท ฯลฯ

ข้อสังเกตว่าเจ้าเหมียวท้องหรือไม่
1. หัวนมจะเป็นสีชมพู และแดงขึ้นตั้งแต่อาทิตย์ที่ 3 ของการตั้งครรภ์ รวมถึงเต้านมที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
2. น้ำหนักตัวแม่แมวจะเพิ่มขึ้นอีก 1 - 2 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกในท้องด้วย
3. ขนาดของช่วงท้องที่ขยายใหญ่และทิ้งตัวหย่อนลง
4. เริ่มแสดงพฤติกรรมความเป็นแม่ออกมา เช่น ออกหาที่ทำรัง ดูแลตัวเองมากขึ้น ลดอาการกระโดดโลดเต้นลง กินอาหารเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ระยะตั้งท้องของแมวอยู่ในช่วง 9 อาทิตย์ หรือ 63 วัน ซึ่งก่อนคลอด เจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการบำรุงร่างกายแม่แมว การถ่ายพยาธิ และวัคซีนที่จำเป็น

ข้อควรจำในการดูแลเจ้าเหมียวท้อง
1. ให้อาหารคุณภาพสูง
- อาหารคุณภาพครบถ้วน สมดุล
- อาหารโปรตีนสูง (นม , ไข่ต้ม)
2. ให้อาหารวันละ 3 - 4 ครั้ง
3. ให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นเสริม โดยปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง
4. ตรวจท้องให้แน่ชัดเมื่อตั้งท้องได้ระยะเวลาประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว
- ยืนยันการท้อง
- ตรวจสุขภาพ
- อาจตรวจพิเศษโดยการอัลตราซาวนด์ ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของสัตวแพทย์
5. ควรให้แมวออกกำลังกายเสมอ แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
6. หลีกเลี่ยงการให้ยาโดยไม่จำเป็น
7. จัดเตรียมรังและสถานที่คลอด
8. ศึกษาตำรา ถามผู้รู้ ในกรณีที่ต้องกลายเป็นหมอตำแยจำเป็น
9. เตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม
10. วางแผนฉุกเฉิน เช่น ถ้าคลอดไม่ออกจะทำอย่างไร อาจหาเบอร์โทรศัพท์ของสัตวแพทย์เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน
11. งดการออกกำลังกายรุนแรงก่อนคลอด 3 วัน


 
     
 
  กลับหน้าหลัก : TakeCare :: หน้าถัดไป
 
       
   
   
Home | Breeds | TakeCare | About Cat | Gallery | Links
©2003 Contact Webmaster